ชาลิ้นจี่ (เครื่องดื่มลิ้นจี่) ชนิดซอง

ชาลิ้นจี่ (เครื่องดื่มลิ้นจี่ ชนิดซอง)

ผลิตจากลิ้นจี่อบแห้ง เป็นผลงานร่วมวิจัยทำอาหารใหม่ร่วมกับ NFI โดยดึงเอาประโยชน์ของสารออกฤทธิ์ ที่มีอยู่ในเนื้อ และเมล็ดลิ้นจี่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภค. ปรับแก้ไขรสชาติให้มีรสขมน้อยลง ดื่มได้ง่าย. จากงานวิจัยขอไทย พบว่าลิ้นจี่มีสรรพคุณ ป้องกันตับ, ประเทศญี่ปุ่น ได้พัฒนาสกัดสารออกฤทธิ์ในลิ้นจี่ไปทำเป็นเม็ดยา (Oligonal) ที่ช่วยในการลดไขมันที่สะสมอยู่ตามอวัยวะต่างๆ เช่น ในตับ, ไต, เส้นเลือด.ซึ่งไขมันประเภทนี้จะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้. นอกจากนี้ยังพบว่าลิ้นจี่มี vitamin C, Beta carotene, สูง มี วิตามิน B-complex, และแร่ธาตุต่างๆ

ลิ้นจี่ที่ใช้ ปลูกจาก สวนในเวียง ซึ่งเป็นสวน Organic ได้รับมาตรฐาน Organic EU, Canada. จึงมั่นใจได้ว่า ลิ้นจี่ที่ใช้ปลอดจากสารฆ่าแมลง.และโลหะหนัก..

การแปรรูป ทำจากสถานที่ในสวน ได้รับการรับรองเป็นสถานที่ผลิตและแปรรูปอาหารที่ได้มาตรฐานรับรอง GMP (Global).

ปริมาณวัตถุดิบในซองเยื่อกระดาษ จะใส่มากถึง 8 กรัม. (เที่ยบกับใบชา ปรกติจะใส่ 1-2 กรัมเป็นอย่างมาก) ทั้งนี้เพื่อให้ได้ประสิทธิผลของสารออกฤทธิ์ออกมามากพอ.

เพื่อรักษาคุณภาพของอาหารให้เก็บได้นาน จึงบรรจุลงในซองฟลอยอีกชั้นหนึ่ง แล้วบรรจุลงกล่อง. มี 12 ซอง/กล่อง. สะดวกต่อการขนส่ง หรือวางอยู่บนชั้นขายของ.สามารถเก็บรักษาในห้องปรกติได้นาน 12 เดือน.

สรรพคุณของเครื่องดื่มลำไยอินทรีย์

1.     ดับกระหาย และชื่นชอบกับรสของลิ้นจี่ที่แท้จริง

2.     ลิ้นจี่มีสาร Flouvanoil ที่มีฤทธิ์ในด้านการลดไขมันที่สะสมในช่องท้อง, ในอวัยวะต่างๆ ในหลอดเลือด. หากดื่มเป็นเครื่องดื่มประจำ สารออกฤทธิ์ที่มีอยู่ในอาหารนี้จะช่วยส่งเสริมให้มีสุขภาพดีขึ้น.

3.     ไขมันอุดตัน หรือไขมันพอกตับ เป็นสาเหตุของโรคร้ายหลายชนิด ที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้. โรคนี้ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค แต่เกิดจากพฤติกรรมการบริโภคของคน.ชอบกินรสหวาน,มัน ไม่รู้จักพอ. ไม่ออกกำลังกาย ดังนั้นหากเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และดื่มชาลิ้นจี่เป็นประจำ จะช่วยให้สุขภาพดีขึ้น.

4.     เครื่องดื่มนี้ ไม่ได้ใช้สำหรับลดความอ้วน ซึ่งเป็นไขมันที่สะสมอบู่ใต้ผิวหนัง. แต่ไขมันที่สะสมในอวัยวะนั้น กำจัดได้ยาก และเป็นเหตุให้เกิดโรคอ้วน (โรคเบาหวาน, โรคหัวใจ...) ซึ่งอันตรายกว่าไขมันใต้ผิวหนังมาก.

5.     เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ไม่ได้ใช้กระบวนการสกัดทางเคมี จึงเป็นอาหารตามธรรมชาติ มีความปลอดภัย ไม่เหมือนยาแผนปัจจุบันที่อาจมีผลข้างเคียง.